สหรัฐฯ ยินดีทับหลังกลับคืนสู่ไทย

สหรัฐฯ ยินดีทับหลังกลับคืนสู่ไทย

รัฐบาลสหรัฐอเมริกาขอแสดงความยินดีที่ทับหลังสลักด้วยหินทรายจากสมัยพุทธศตวรรษที่ 16 จำนวน 2 รายการได้กลับคืนสู่ประเทศไทย โดยเป็นผลจากความพยายามร่วมกันตลอดระยะเวลา 4 ปีของสหรัฐฯ และไทย

“ทับหลัง 2 รายการนี้เป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของไทย และรัฐบาลสหรัฐฯ ภาคภูมิใจที่ได้ต่อสู้เพื่อนำโบราณวัตถุเหล่านี้กลับมายังประเทศไทย” อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไมเคิล ฮีธ กล่าวเนื่องในโอกาสเป็นตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ ณ พิธีส่งมอบทับหลังในวันนี้

รองนายกรัฐมนตรี วิษณุ เครืองาม เป็นประธานในพิธีส่งมอบทับหลังกลับคืนสู่ประเทศไทยในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อติดตามนำทับหลังชิ้นสำคัญทางศาสนาทั้งสองรายการกลับสู่ถิ่นกำเนิด

ความร่วมมือในครั้งนี้เริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปี 2560 เมื่อกลุ่มนักวิชาการอิสระได้รวบรวมข้อมูลโบราณวัตถุของไทยจำนวนหนึ่งที่อยู่ในต่างประเทศ จากนั้นจึงดำเนินการร่วมกับนายกรัฐมนตรีและกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อจัดตั้งคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ผลจากการประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้ติดตามทวงคืนโบราณวัตถุ อันได้แก่ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จังหวัดบุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จังหวัดสระแก้ว ซึ่งจัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอเชียในนครซานฟรานซิสโก

กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงการต่างประเทศของไทยทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับสำนักงานสืบสวนความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (ซึ่งมีสำนักงานในสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย) และสำนักงานอัยการเขตรัฐแคลิฟอร์เนียตอนบน เพื่อให้บรรลุขั้นตอนทางกฎหมายในการนำทับหลังออกจากการจัดแสดงของพิพิธภัณฑ์ดังกล่าวและส่งกลับคืนถิ่นเดิมได้ โดยโบราณวัตถุทั้งสองรายการเดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2564

“เราเฉลิมฉลองการกลับมาของทับหลังเหล่านี้ และทราบดีว่า ความร่วมมือด้านการบังคับใช้กฎหมายและความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีที่แน่นแฟ้นระหว่างเราจะทำให้ชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ ได้ชื่นชมมรดกตกทอดอันมีค่ายิ่งของชาติตน” อุปทูตฮีธกล่าว “สหรัฐฯ เป็นประเทศแห่งกฎหมาย และกฎหมายของเราก็มีข้อกำหนดที่ชัดเจนเกี่ยวกับโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมที่เป็นสมบัติของชาติอื่น ๆ”

สายสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และไทยซึ่งเป็นพันธมิตรที่เก่าแก่ที่สุดของเราในเอเชียนั้นคงทนถาวร เราร่วมกันส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข การศึกษา การทหาร เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชน

การส่งคืนวัตถุสำคัญในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญในประวัติศาสตร์ความร่วมมือด้านวัฒนธรรมที่ยาวนานของเรา ซึ่งยังรวมไปถึงการอนุรักษ์วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายใต้กองทุนเอกอัครราชทูตเพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรม (Ambassadors Fund for Cultural Preservation) หรือ AFCP อีกด้วย

ตามข้อตกลง ทับหลังหินทรายทั้งสองรายการนี้ได้รับการส่งคืนสู่ประเทศไทยภายใต้โครงการ Victim Remission Program ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และจะจัดแสดงให้ประชาชนได้ชม ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เป็นเวลา 3 เดือน

ดาวน์โหลดรูปถ่ายได้ที่ https://state-low.box.com/v/US-welcomes-return-lintels