รัฐบาลสหรัฐฯ จับมือรัฐบาลไทยเชิญภาคเอกชนร่วมวางแผนอนาคตด้านพลังงาน

รัฐบาลสหรัฐฯ จับมือรัฐบาลไทยเชิญภาคเอกชนร่วมวางแผนอนาคตด้านพลังงาน

สหรัฐอเมริกาและไทยบุกเบิกหนทางความร่วมมือด้านใหม่ ๆ ในภาคพลังงานใน “เวทีหารือด้านพลังงานสำหรับภาคเอกชนสหรัฐฯ และไทย” ซึ่งจัดขึ้นผ่านระบบออนไลน์ในวันที่ 27 เมษายน 2564 โดยสืบเนื่องจากมติที่ได้จาก “การประชุมหารือเชิงนโยบายด้านพลังงาน” ระหว่างทั้งสองประเทศเมื่อวันที่ 27 ตุลาคมปีที่แล้ว ในเวทีหารือครั้งนี้ มีบริษัทชั้นนำพร้อมด้วยหลากหลายหน่วยงานของภาครัฐทั้งจากสหรัฐฯ และไทยเข้าร่วมการพูดคุย และมีอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ไมเคิล ฮีธ และนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงานของไทย เป็นประธานร่วม การพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนจากการพูดคุยนี้จะช่วยให้ประชาชนไทยเข้าถึงแหล่งพลังงานที่ยั่งยืนและคุ้มทุนได้มากขึ้น อุปทูตฮีธกล่าวว่า “ด้วยการผลักดันจากนโยบายที่ก้าวหน้าของภาครัฐ ร่วมกับนวัตกรรมของภาคเอกชน ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำของภูมิภาคและของโลกในการกำหนดแนวทางความมั่นคงด้านพลังงาน เราขอชื่นชมความพยายามของบริษัททั้งฝ่ายสหรัฐฯ และฝ่ายไทยสำหรับการผลิตพลังงานจากแหล่งที่หลากหลาย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้ทันสมัย และการช่วยสร้างตลาดแลกเปลี่ยนสินค้าพลังงานในภูมิภาค” ทั้งนี้ นายกุลิศ ปลัดกระทรวงพลังงานได้กล่าวว่า “กระทรวงพลังงานไทยเล็งเห็นความสำคัญของความร่วมมือทวิภาคีด้านพลังงานระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย โดยการประชุมหารือในวันนี้จะเป็นโอกาสสำคัญที่จะเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวคิดจากภาคเอกชนด้านพลังงานของทั้งสองประเทศในการพัฒนาแ นวทางการทำธุรกิจด้านพลังงานร่วมกันในอนาคต ซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการผลักดันให้เกิดความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในด้านพลังงานเพื่อให้เกิดการฟื้นตัวทางภาคเศรษฐกิจ รวมถึงการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นปัญหาสำคัญในระดับโลกซึ่งจะมีการหารือในประเด็นดังกล่าวนี้ใน การประชุมครั้งนี้อีกด้วย”

ผู้แทนจากทั้งรัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลไทยต่างตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของภาคเอกชนในการขับเคลื่อนนวัตกรรม และให้คำมั่นว่าจะแสวงหาโอกาสในการขยายความร่วมมือด้านการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการผลิตไฟฟ้า ก๊าซธรรมชาติ พลังงานทดแทน และการอนุรักษ์พลังงาน ตัวแทนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำถึงเครื่องมือใหม่ ๆ ที่จะช่วยผลักดันการเติบโตทางการค้า และกระตุ้นการจัดหาเงินทุนจากภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานความร่วมมือทางการเงินเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (DFC) และสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (USTDA) ในโอกาสเดียวกันนี้ ผู้แทนจากฝ่ายไทยได้กล่าวถึงความมุ่งมั่นของประเทศในแผนพลังงานแห่งชาติฉบับใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดทำภายใต้แนวคิด “การพัฒนาไปสู่การใช้พลังงานสะอาดและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อความมั่นคงด้านพลังงานและความสามารถในการแข่งขันเพื่ออนาคตด้านพลังงา นที่ยั่งยืน” บริษัทเอกชนจากทั้งสองประเทศได้นำเสนอความคิดเห็นเพื่ออนาคตด้านพลังงานที่สดใสยิ่งขึ้น ซึ่งรวมไปถึงความจำเป็นในการมีกรอบการทำงานด้านกฎหมายและนโยบายที่ชัดเจน ผู้เข้าร่วมการประชุมเห็นถึงบทบาทสำคัญของไทยในการอำนวยให้เกิดความเชื่อมโยงและการพัฒนาภาคพลังงานทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และสนับสนุนให้ไทยมุ่งดำเนินการตามเป้าหมายที่จะทำให้ภูมิภาคมีความเชื่อมโยงกันยิ่งขึ้น สหรัฐฯ และไทยวางแผนที่จะจัดการประชุมหารือเชิงนโยบายด้านพลังงาน ครั้งที่ 2 ที่ไทยในปีนี้ โดยต่อยอดจากความก้าวหน้าซึ่งเกิดขึ้นนับตั้งแต่การประชุมครั้งแรกเมื่อปีที่ผ่านมา