แถลงการณ์สนับสนุนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวหมู่เกาะแปซิฟิกโดยอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ไมเคิล ฮีธ

แถลงการณ์สนับสนุนชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวหมู่เกาะแปซิฟิก

โดยอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ไมเคิล ฮีธ

ในฐานะลูกหลานของเครือญาติชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นที่ถูกส่งตัวไปยังค่ายกักกันในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผมรับรู้อย่างชัดแจ้งถึงผลกระทบของการเลือกปฏิบัติต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ความเกลียดชังและการคุกคามที่เราได้เห็นซึ่งมุ่งเป้าไปที่ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและชาวหมู่เกาะแปซิฟิกไม่เหมาะที่จะอยู่ในสหรัฐอเมริกาเลย และเช่นเดียวกันกับประธานาธิบดีไบเดน ผมขอประณามเหตุการณ์การฆาตกรรมอันโหดร้ายที่เกิดขึ้นในเมืองแอตแลนตาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ผมอยากจะขอให้มิตร หุ้นส่วน และพันธมิตรของเราที่ประเทศไทยนี้ได้ระลึกว่าชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียมิได้เป็นเพียงเหยื่อ แต่พวกเราได้บากบั่นเพื่อความยุติธรรมถูกต้องและการเปลี่ยนแปลงทั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศ เราเป็นนักกีฬา นักวิทยาศาสตร์ ครูอาจารย์ วิศวกร ศิลปิน และนักการทูต สหรัฐฯ มอบโอกาสอย่างมากมายให้แก่พลเมืองทุกคนของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานชาวเอเชียหรือคนผิวสีอื่น ๆ โอกาสเหล่านี้เป็นเหตุผลที่คุณตาคุณยายของผมอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1930 ญาติของผมหลายคนต่อสู้ในกองทัพสหรัฐฯ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะพวกเขาเชื่อในอุดมการณ์แห่งเสรีภาพและสิทธิแห่งปัจเจกชน หลังสงครามสิ้นสุดลง พวกเขาเป็นผู้ประสบความสำเร็จในหลากหลายด้าน คุณลุงของผมคนหนึ่งได้เป็นอธิการบดีชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกในสหรัฐฯ ผู้แทนในสภาคองเกรสคนปัจจุบันจากเขตบ้านเกิดของผมเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น และเมื่อเร็ว ๆ นี้ วุฒิสภาสหรัฐฯ ได้รับรองสถานะของชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียคนแรกในฐานะผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ ส่วนที่ประเทศไทยเองก็รู้กันดีว่า คุณแทมมี ดักเวิร์ธ ชาวอเมริกันเชื้อสายไทย ผู้เป็นทหารผ่านศึกที่เคยได้รับเหรียญกล้าหาญนั้น ได้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ

ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียประสบความสำเร็จในหลากหลายด้าน มิใช่เพียงเพราะสหรัฐฯ เชื่อมั่นในชีวิต เสรีภาพ และการแสวงหาความสุขเพียงเท่านั้น แต่เป็นเพราะเราไม่กลัวที่จะตรวจสอบจุดบกพร่องของเราโดยละเอียด เรามิได้พยายามลบล้างเหตุการณ์อันโหดร้ายทารุณไปจากบันทึกประวัติศาสตร์ของเรา ผมขออ้างถึงคำกล่าวอันคมคายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่รัฐอะแลสกาดังนี้ “ความเป็นผู้นำอันโดดเด่นของสหรัฐฯ ณ มาตุภูมิ คือการไม่หยุดที่จะเสาะแสวงสหภาพที่สมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม และการเสาะแสวงนั้นย่อมหมายถึงการรับรู้ถึงข้อด้อยและความไม่สมบูรณ์แบบของเรา เราทุกคนล้วนเคยผิดพลาด แต่สิ่งที่เราทำตลอดประวัติศาสตร์ของเราคือการเผชิญหน้ากับข้อท้าทายเหล่านั้นอย่างเปิดกว้างต่อสาธารณชนและด้วยความโปร่งใส เราจะไม่เพิกเฉยต่อข้อท้าทายต่าง ๆ หรือจะไม่แสร้งทำเป็นไม่รับรู้ว่ามีข้อท้าทายอยู่ แต่ทุกครั้งที่เราผ่านพ้นเรื่องเหล่านี้ไป เราได้ผงาดขึ้นเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง ยอดเยี่ยม และเป็นหนึ่งเดียวกันยิ่งกว่าเดิม”

คำกล่าวของรัฐมนตรีบลิงเคน เป็นการเตือนสติชาวอเมริกันให้ทำอะไรมากขึ้นเพื่อขจัดความอยุติธรรมและความเขลาที่ปรากฏขึ้นให้หมดสิ้นไป คำกล่าวนี้จะช่วยนำทางเราในยามต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งในและต่างประเทศต่อไป