วันอังคารที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561
ท่านเอกอัครราชทูตวีรชัย แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน กระผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมงานฉลองวันชาติของราชอาณาจักรไทยกับท่านทั้งหลายในค่ำคืนนี้
ในปี พ.ศ. 2405 ประธานาธิบดีลินคอล์นได้เขียนอักษรสาส์นไปถึงพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็น “great and good friend” ของท่าน โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีการจัดแสดงอักษรสาส์นฉบับนั้นที่กรุงเทพฯ ร่วมกับของขวัญ อักษรสาส์นของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และพระราชสาส์นในพระมหากษัตริย์ของไทย ที่แลกเปลี่ยนระหว่างกันตลอดช่วงเวลา 200 ปีที่ผ่านมา
งานนิทรรศการครั้งนี้ได้จัดแสดงของขวัญมากมายจากช่วงเวลา 7 ทศวรรษแห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งพวกเราทั้งหลายฉลองวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระองค์ในค่ำคืนนี้ นอกจากนี้ เรายังสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่พระราชโอรสในพระองค์ คือ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดงานนิทรรศการในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ปีนี้เป็นวาระครบรอบ 185 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา และสนธิสัญญาพันธมิตรระหว่างเราทั้งสองประเทศจะมีอายุครบ 65 ปี ในเดือนกันยายนปีหน้านี้ กองทัพสหรัฐและกองทัพไทยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันมายาวนาน นับตั้งแต่การรบครั้งที่สองที่แม่น้ำมาร์น (Second Battle of the Marne) ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ความร่วมมืออันแข็งแกร่งระหว่างกองทัพของเราเป็นที่เห็นเด่นชัดในช่วงฤดูร้อนนี้เมื่อทีมค้นหาและกู้ภัยของกองทัพสหรัฐได้มีส่วนช่วยเหลือทีมกู้ภัยนำโดยประเทศไทย ช่วยนักฟุตบอลเยาวชนออกจากถ้ำทางภาคเหนือของประเทศไทย
บริษัทเอกชนและพลเมืองชาวอเมริกันมากมาย ยังมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือดังกล่าวด้วย บริษัทเชฟรอนได้นำผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ในการขุดเจาะและสูบน้ำแบบพิเศษมาใช้ ความมุ่งมั่นของธุรกิจอเมริกันที่ดำเนินงานในประเทศไทยสะท้อนให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นด้านเศรษฐกิจของเรา ส่งผลให้การค้าสองฝ่ายมีมูลค่าสูงถึง 42,000 ล้านเหรียญในปีที่ผ่านมา
มิตรภาพระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทยในหลายๆ ด้านส่งให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก เจ้าหน้าที่ตำรวจของเราจับมือกันต่อสู้การค้ามนุษย์ สัตว์ป่า และยาเสพติดข้ามชาติ เราร่วมกันเป็นเจ้าภาพสถาบันฝึกอบรมระหว่างประเทศว่าด้วยการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย (International Law Enforcement Academy) กรุงเทพฯ ซึ่งได้อบรมผู้ปฏิบัติงานด้านการบังคับใช้กฎหมายในภูมิภาคเอเชียมาแล้วกว่า 15,000 คน นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541
ร้อยละ 20 ของเจ้าหน้าที่ของเราในประเทศไทยทำงานด้านสุขภาพโลก เราร่วมกันทำงานค้นคว้าและพัฒนาวัคซีนและยาเป็นเวลาหลายทศวรรษ เราร่วมกันอบรมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากทั่วภูมิภาคเพื่อค้นหาและตอบสนองต่อภัยคุกคามของโรคต่างๆ ก่อนที่จะเกิดการระบาด
ความเป็นผู้นำของประเทศไทยสามารถสนับสนุนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง การเลือกตั้งทั่วประเทศที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าจะแสดงถึงความมุ่งมั่นต่อประชาธิปไตยและกฎหมายที่เรามีร่วมกัน อีกทั้งยังสนับสนุนการดำเนินการตามเสาหลักในการกำกับดูแลยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของเรา
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เอง สหรัฐอเมริกาได้ตอบรับคำเชิญของรัฐบาลไทยอย่างเป็นทางการเพื่อเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระเจ้า-แม่โขง (ACMECS) เราหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับประเทศไทย กัมพูชา ลาว พม่า และเวียดนามในการสนับสนุนการเติบโตของภูมิภาคผ่านทาง ACMECS และข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (Lower Mekong Initiative)
เรากำลังทำงานร่วมกับประเทศไทยเพื่อช่วยให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จในการเป็นประธานอาเซียนในปี พ.ศ. 2562 เราจะทำงานร่วมกับไทยซึ่งเป็นประธานอาเซียน ในการเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์สมาร์ทซิตี้สหรัฐ-อาเซียน (U.S.-ASEAN Smart Cities Partnership) เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงและความร่วมมือด้านดิจิทัลในเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม
กระผมมีความยินดีที่จะประกาศให้ทุกท่านทราบในคืนนี้ว่า เราจะทำงานร่วมกับประเทศไทยและกลุ่มธุรกิจสหรัฐในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม Indo-Pacific Business Forum ครั้งต่อไปที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2562 โดยการประชุมนี้จะแสดงให้เห็นถึงการที่รัฐบาลสหรัฐและรัฐบาลไทย ร่วมกับภาคเอกชนสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรี เปิดกว้าง และเจริญก้าวหน้าได้อย่างไร เรากำลังเร่งให้เกิดการลงทุนของภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกาซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสำเร็จของทุกฝ่าย
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษครับ ตลอดระยะเวลา 200 ปีที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยเป็นสหาย คู่ค้า และพันธมิตร ในค่ำคืนนี้ กระผมหวังว่าเราจะยังคงมิตรภาพความเป็น “Great and Good Friend” ในเวลาสองศตรวรรษต่อจากนี้ไปนะครับ
ขอบคุณครับ