รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กำลังเดินหน้าเข้าสู่การค้าเสรีกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

การประชุมธุรกิจอินโด-แปซิฟิก: เจ้าหน้าที่รัฐบาลยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะเสริมสร้างความผูกพันทางด้านเศรษฐกิจและการพาณิชย์ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

  • เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2561 สมาชิกคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา และเจ้าหน้าที่อาวุโส ได้เข้าร่วมกับกลุ่มผู้นำนักธุรกิจอเมริกันและบุคคลสำคัญต่างชาติในการประชุมทางธุรกิจอินโด-แปซิฟิก ณ กรุงวอชิงตัน ดี ซี
    • บรรดาผู้นำจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงพลังงาน องค์กราเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) บรรษัทการลงทุนเอกชนในต่างประเทศ (OPIC) และธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าได้พูดคุยกันในที่ประชุม
  • เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ ระบุว่า การลงทุนของสหรัฐอเมริกา ในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นสิ่งที่ดีสำหรับประเทศสหรัฐอเมริกา ดีสำหรับธุรกิจ และดีสำหรับโลก
  • เจ้าหน้าที่รัฐบาลประกาศว่าความริเริ่มใหม่นี้มุ่งที่จะผลักดันการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคและการสนับสนุนโอกาสในการส่งออกของสหรัฐอเมริกาให้มากขึ้น
  • เจ้าหน้าที่รัฐบาลยืนยันการสนับสนุนบทบัญญัติ Better Utilization of Investments Leading to Development Act (BUILD) เพื่อปฏิรูป ปรับปรุงให้ทันสมัย และเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการเงินเพื่อการพัฒนาให้มากขึ้นกว่าเท่าตัว 

ยุทธศาตร์การลงทุน: รัฐบาลทรัมป์ ประกาศเงินทุนจำนวน 113.5 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อริเริ่มโครงการเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ ในภูมิภาคอิโด-แปซิฟิก

  • ความริเริ่มเชิงยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ เหล่านี้จะมุ่งเน้นไปที่:
    • การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชนของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาค
    • การปรับปรุงการเชื่อมต่อระบบดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์
    • การส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่งยืน
    • การเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงานและการเข้าถึง
  • ความเป็นหุ้นส่วนด้านการเชื่อมต่อระบบดิจิทัลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (Digital Connectivity and Cybersecurity Partnership) จะอาศัยความเป็นหุ้นส่วนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ในการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิคเพื่อสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานระบบดิจิตอลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
  • เครือข่ายการดำเนินงานและความช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Transaction and Assistances Network) จะจัดตั้งหน่วยงานเพื่อประสานความพยายามระหว่างหน่วยงานในการประเมินโครงการต่าง ๆ รวมถึงให้คำชี้แนะด้านการเงินเพื่อการพัฒนา และการให้ความช่วยเหลือทางเทคนิค
  • เอเชีย เอดจ์ – (Asia EDGE – Enhancing Development and Growth through Energy) –จะส่งเสริมความมั่นคงและการเข้าถึงด้านพลังงานด้วยการส่งเสริมการส่งออกของสหรัฐฯ และสนับสนุนนโยบายทางการตลาด
  • กระทรวงการค้าพาณิชย์ของสหรัฐ จะดำเนินการผ่านโครงการแอคเซสเอเซีย (Access Asia) ที่มุ่งเน้น 25 แผนงานและพันธกิจการค้าประจำปี พ.ศ. 2562 เพื่อเชื่อมโยงบริษัทอเมริกันกับตลาดในแถบอินโดแปซิฟิก

ความร่วมมือกับประเทศหุ้นส่วน: รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศความร่วมมือทางเศรษฐกิจครั้งใหม่กับประเทศญี่ปุ่น ออสเตรเลีย อินเดีย และมองโกเลีย

  • บรรษัทการลงทุนเอกชนในต่างประเทศ (OPIC) ได้ออกแถลงการณ์ความร่วมมือกับญี่ปุ่นและออสเตรเลีย โดยเมื่อไม่นานมานี้ ญี่ปุ่นเพิ่งจัดตั้งกองทุนมูลค่า 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานในระดับภูมิภาค
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ได้มอบสถานะการค้าเชิงยุทธศาสตร์ระดับ 1 ให้แก่อินเดีย ทำให้บริษัทอเมริกันสามารถส่งออกสินค้าด้านเทคโนโลยีชั้นสูงได้คล่องตัวมากขึ้น
  • องค์กรมิลเลนเนียมแชลเลนจ์ (The Millennium Challenge Corporation) ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐบาลสหรัฐฯ จะดำเนินการจัดหาเงินจำนวน 350 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ตามข้อตกลงให้แก่มองโกเลีย เพื่อเพิ่มแหล่งน้ำอย่างยั่งยืนให้แก่เมืองอูลานบาตอร์
  • องค์กรการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา (United States Trade and Development Agency) ได้ลงนามข้อตกลงเกี่ยวกับการพัฒนาพลังงานใหม่ในอินเดียและได้เปิดตัวโครงการความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติเหลวกับประเทศญี่ปุ่น
  • สหรัฐอเมริกาประกาศเพิ่มการสนับสนุนสถาบันสำคัญในระดับภูมิภาค รวมถึงอาเซียน เอเปก ข้อริเริ่มลุ่มแม่น้ำโขงตอนล่าง และสมาคมแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (IORA)