ถ้อยแถลงโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ไมเคิล อาร์. ปอมเปโอ
วันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2562
โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
รัฐมนตรีปอมเปโอ: ขอบคุณครับท่านรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ ผมขอขอบคุณประเทศไทยที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีครั้งนี้อันมีความพิเศษเนื่องด้วยเป็นวาระครบรอบหนึ่งทศวรรษของข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (Lower Mekong Initiative) สหรัฐอเมริกาภาคภูมิใจในบทบาทประเทศคู่ความร่วมมือตลอด 10 ปีที่ผ่านมา การดำเนินงานของพวกเราช่วยให้ประชาชน 340,000 คนเข้าถึงน้ำดื่มคุณภาพดีขึ้น เจ้าหน้าที่ ครูอาจารย์และนักเรียน 3,800 คนได้เข้ารับการฝึกอบรมภาษาอังกฤษเชิงเทคนิค ประชาชน 27,000 คนสามารถเข้าถึงการสุขาภิบาลที่ดีขึ้น นอกจากนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค 70 คณะยังได้สนับสนุนโครงการ 45 โครงการเพื่อพัฒนาความยั่งยืนของโครงสร้างพื้นฐานอีกด้วย
เหล่านี้คือผลสัมฤทธิ์อย่างแท้จริง ทั้งยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพันธกรณีของอเมริกาต่อความร่วมมือกับกลุ่มห้าประเทศลุ่มน้ำโขง สหรัฐฯ จะยังคงช่วยปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของท่าน สนับสนุนท่านสู่ความเฟื่องฟูด้านเศรษฐกิจ และพิทักษ์รักษาวัฒนธรรมตลอดจนสิ่งแวดล้อมอันอุดมของท่าน
เรายึดถือเป้าหมายเหล่านี้ร่วมกันกับมิตรสหายและหุ้นส่วนมากมายในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงกลุ่มมิตรประเทศลุ่มน้ำโขงตอนล่าง (Friends of the Lower Mekong) ที่วันนี้เพิ่งออกถ้อยแถลงระดับรัฐมนตรีเน้นย้ำแนวทางร่วมกันและแนวทางตามหลักการของเรา
ทว่า ช่วงที่ผ่านมานี้ ผมเสียใจที่ต้องรายงานว่า เราพบแนวโน้มที่น่ากังวลบางประการ เราเห็นการก่อสร้างเขื่อนต้นน้ำหลายแห่งที่กระจุกการควบคุมกระแสน้ำที่ไหลมายังปลายน้ำ ระดับน้ำแม่น้ำโขงอยู่ในจุดต่ำสุดในรอบทศวรรษ ซึ่งปัญหานี้เชื่อมโยงกับการที่จีนตัดสินใจปิดกั้นกระแสน้ำในบริเวณต้นน้ำ จีนยังมีแผนระเบิดและขุดลอกร่องน้ำ จีนจัดกองลาดตระเวนลำน้ำนอกอาณาเขต และเราเห็นแรงผลักดันเพื่อร่างกฎระเบียบใหม่เหนือลุ่มน้ำแห่งนี้ภายใต้การกำกับของรัฐบาลจีนซึ่งส่งผลลดทอนอำนาจของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง นอกจากนี้ กลุ่มอาชญากรทั้งที่เคลื่อนไหวในบ่อนคาสิโนและเขตเศรษฐกิจพิเศษยังใช้แม่น้ำโขงเป็นเส้นทางหลักสำหรับลักลอบขนยาเสพติด สัตว์ป่า หรือแม้แต่มนุษย์
ในการเผชิญหน้ากับข้อท้าทายเหล่านี้และปัญหาอื่นๆ พวกเราต้องคงความร่วมมือปัจจุบันของเราไว้ สานความร่วมมือใหม่ และจับตามองอนาคต วันนี้ ผมมีความภูมิใจที่จะประกาศโครงการริเริ่มใหม่เพื่อช่วยให้เราดำเนินการเหล่านี้ได้
หนึ่งในข้อริเริ่มใหม่คือ หุ้นส่วนด้านพลังงานแม่น้ำโขงระหว่างญี่ปุ่น-สหรัฐฯ (Japan-U.S. Mekong Power Partnership) หรือ JUMP อันเป็นความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับสหรัฐฯ เพื่อพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าระดับภูมิภาค โดยสหรัฐฯ มอบเงินทุนแรกเริ่มจำนวน 29.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความร่วมมือดังกล่าวจะเป็นการต่อยอดผลงานยิ่งใหญ่ที่รัฐบาลของเราทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการแล้วในภาคส่วนที่สำคัญยิ่งนี้ อีกทั้งเสริมการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ที่ดำเนินงานเกี่ยวกับสายส่งไฟฟ้าข้ามพรมแดนด้วย
นอกจากนี้ เรายังยินดีที่จะประกาศว่า สหรัฐฯ ซึ่งทำงานร่วมกับสภาคองเกรสมีแผนมอบความช่วยเหลือเบื้องต้นมูลค่า 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แก่ประเทศในลุ่มน้ำโขงสำหรับดำเนินการต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ โครงการริเริ่มนี้จะให้การสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมาย ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ระงับเส้นทางการเงินของผู้ค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย และช่วยต่อต้านการขยายตัวของเส้นทางการกระจายยาบ้าและกิจกรรมผิดกฎหมายอื่นๆ ที่มาจากสามเหลี่ยมทองคำ เรายังหวังด้วยว่า โครงการริเริ่มนี้จะเสริมสร้างความพยายามต่อต้านอาชญากรรมของประเทศหุ้นส่วนสำคัญอื่นๆ รวมถึงออสเตรเลีย
สำหรับประเด็นอื่นๆ นั้น ในปลายปีนี้ สหรัฐฯ จะจัดการประชุมอินโด-แปซิฟิกว่าด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพระบบการจัดการแม่น้ำระหว่างประเทศ การประชุมครั้งนี้จะส่งเสริมการสนับสนุนแนวทางการจัดการแม่น้ำโขงที่มีความโปร่งใสและระเบียบที่ยึดมั่นในกฎกติกา ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ณ การประชุม Indo-Pacific Business Forum ครั้งที่ 2 ที่กรุงเทพมหานคร สหรัฐฯ คาดว่าจะประกาศโครงการริเริ่มใหม่ๆ หลายโครงการเพื่อช่วยเหลือประเทศในลุ่มน้ำโขงในภาคโครงสร้างพื้นฐาน พลังงาน และดิจิทัล ตอนนี้ สหรัฐฯ กับสาธารณรัฐเกาหลียังสนับสนุนเงินทุนดำเนินโครงการร่วมโครงการใหม่เพื่อการใช้ภาพถ่ายทางดาวเทียมอย่างมีประสิทธิผลยิ่งขึ้นในการประเมินรูปแบบของน้ำท่วมและสภาพแห้งแล้งของแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ประเทศสมาชิกข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างของเรายังจะเปิดตัวแนวนโยบายใหม่ว่าด้วยการแบ่งปันข้อมูลน้ำในแม่น้ำโขง ตลอดจนโครงการใหม่เพื่อส่งเสริมความสำเร็จของข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างโดยมุ่งพัฒนาผลสัมฤทธิ์ที่มีต่อสาธารณะ สหรัฐฯ สนับสนุนการฟื้นฟูยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) และขอแสดงความชื่นชมต่อประเทศไทยที่ฟื้นฟูความพยายามนี้
ท้ายนี้ เมื่อมองกาลข้างหน้าสู่ปี 2563 สหรัฐฯ เห็นว่า วาระที่เวียดนามเป็นประธานอาเซียนนั้นเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับความสืบเนื่องในการสานสร้างความก้าวหน้าในความร่วมมือแม่น้ำโขงของเราสืบต่อไป ซึ่งรวมถึงช่วยให้การประชุมระดับรัฐมนตรีประจำปีของเรามุ่งประเด็นสำคัญมากขึ้น มียุทธศาสตร์มากขึ้น และมีประสิทธิผลยิ่งขึ้น สหรัฐฯ เป็นมิตรของประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง และจะคงเป็นเช่นนี้ตลอดไป ขอบคุณครับ
ถ้อยแถลงเปิดการประชุมรัฐมนตรีข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงตอนล่างเผยแพร่ครั้งแรกที่เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา