สหรัฐฯ-ไทยพัฒนาเครือข่ายภาคีความร่วมมือใหม่ ต่อยอดความสำเร็จในการต่อต้านการค้าสัตว์ป่า
ภาคีความร่วมมือ อันได้แก่ แหล่งทุน หน่วยงานระดับภูมิภาคและนานาชาติ ตลอดจนหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรด้านการอนุรักษ์ ได้ร่วมกันพัฒนาเครือข่ายภาคีเพื่อยกระดับความร่วมมือและดำเนินงานเพื่อให้การลงทุนต่อต้านการค้าสัตว์ป่าในภูมิภาคเอเชียมีประสิทธิผลย ิ่งขึ้น ภาคีและองค์กรเหล่านี้ได้ออกเอกสารสรุปข้อเจรจา โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของแนวทางความร่วมมือสุขภาพหนึ่งเดียว (One Health) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคที่ระบาดอยู่ในขณะนี้ และมุ่งไปสู่การฟื้นฟูหลังจากนี้
ช่องทางการสื่อสารในการประสานความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายในภูมิภาคเอเชียถือเป็นหนึ่งในผลสำเร็จจากการประชุมระหว่างภาคีเพื่อกา รต่อต้านการค้าสัตว์ป่า ตั้งแต่วันที่ 21-23 กันยายน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชของไทยร่วมกันเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นทางออนไลน์
อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ไมเคิล ฮีธ ได้กล่าวระหว่างการประชุม ซึ่งเป็นผลสำเร็จของโครงการ USAID Wildlife Asia ว่า “ประธานาธิบดีไบเดนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับการดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อมในช่วงเวลาวิกฤติที่โลกกำลังเผชิญกับปัญหาสภาพภูมิอากาศ โครงการ USAID Wildlife Asia ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมของเรา ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานระดับประเทศและระดับภูมิภาคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อยุติ ต่อต้าน และขัดขวางอาชญากรรมสิ่งแวดล้อมข้ามชาติ เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้สนับสนุนการจัดการประชุมระหว่างภาคีเพื่อต่อต้านการค้าสัตว์ป่าในครั้งนี้ ร่วมกับภาคีที่ยืนยาวอย่างสำนักงานเลขาธิการอาเซียน และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้รัฐบาลไทย ในขณะที่เราร่วมมือกันยกระดับความพยายามต่อต้านการค้าสัตว์ป่า”
นายลิม จ็อก ฮอย เลขาธิการอาเซียน กล่าวว่า “หลังจากแถลงการณ์เชียงใหม่ของรัฐมนตรีอาเซียนที่รับผิดชอบด้านอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สู ญพันธุ์และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่าว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าผิดกฎหมาย (Chiang Mai Statement of ASEAN Ministers Responsible for CITES and Wildlife Enforcement on Illegal Wildlife Trade) ที่ออกมาเมื่อปี 2562 อาเซียนก็ได้ดำเนินงานส่งเสริมให้มีเวทีเสวนาในประเด็นนโยบายด้านการค้าสัตว์ป่าทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค รวมถึงการลดความต้องการการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า และการสนับสนุนให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า “ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าการประสานความร่วมมือจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จในการยุติการค้าสัตว์ป่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้ายที่สุด ผมหวังว่าการประชุมออนไลน์ในวันนี้จะช่วยผลักดันการประสานความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมเพื่อความยั่งยืนในอนาคต”
ตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา โครงการ USAID Wildlife Asia ได้ดำเนินงานเพื่อต่อต้านอาชญากรรมการค้าสัตว์ป่าและปกป้องพันธุ์สัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยทำงานร่วมกับรัฐบาลของประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อสนับสนุนให้เกิดกฎหมายการต่อต้านการค้าสัตว์ป่า การจับกุมและดำเนินคดีการค้าสัตว์ป่าที่ผิดกฎหมาย และลดความต้องการในการซื้อขายและบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าผ่านโครงการรณรงค์ที่มีผู้บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าเป็นกลุ่มเป้าหมาย นอกจากนี้ โครงการยังช่วยยกระดับการประสานความร่วมมือของภาคีเครือข่ายการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าในระดับภูมิภาคให้มีประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น
สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนสนับสนุนอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการใหม่ที่มีชื่อว่า USAID Reducing Demand for Wildlife ซึ่งต่อยอดจากความสำเร็จของโครงการ USAID Wildlife Asia โดยจะดำเนินงานเพื่อสนับสนุนให้มีการปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการความร่วมมืออาเซียนด้านอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป ่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์และการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับสัตว์ป่าและพืชป่า พ.ศ. 2564-2568 (Plan of Action for the ASEAN Cooperation on CITES and Wildlife Enforcement 2021-2025) ซึ่งโครงการ USAID Wildlife Asia ได้ร่วมสนับสนุนการจัดทำขึ้นด้วย นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวจะดำเนินงานโดยนำผลจากการประชุมในครั้งนี้ไปเป็นแนวทางในเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการประสานงานและประสานความร่วมมือขอ งองค์กรภาคีเครือข่ายในระดับภูมิภาคต่อไป
การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นโดยความร่วมมือกับองค์กรกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (WWF) ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) โครงการคุ้มครองสัตว์ป่าโลกโดยธนาคารโลก (World Bank Global Wildlife Program) กองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme)
ตั้งแต่ปี 2559–2564 โครงการ USAID Wildlife Asia ซึ่งมีงบประมาณ 24.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ยังได้ดำเนินงานในด้านต่อไปนี้
- ริเริ่มโครงการรณรงค์เพื่อลดความต้องการในการซื้อขายและบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย โดยอิงจากผลการวิจัยที่มีหลักฐานรองรับ โครงการรณรงค์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่ตั้งใจจะซื้อผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เวียดนาม และจีน ลดลงมากกว่าร้อยละ 50
- พัฒนากฎหมายและนโยบายด้านการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าทั้งหมด 10 นโยบายในกลุ่มประเทศเป้าหมาย เพื่อเพิ่มค่าปรับและบทลงโทษสำหรับอาชญากรรมการค้าสัตว์ป่า
- สอดแทรกหลักการทำงานแบบประสานความร่วมมือในหน่วยงานด้านการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านอาชญากรรมการค้าสัตว์ป่า โดยจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการให้แก่เจ้าหน้าที่จาก 137 หน่วยงานใน 24 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชียและแอฟริกา
- ระดมทุนจำนวน 19.6 ล้านเหรียญสหรัฐจากโครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐฯ และเอกชน
เกี่ยวกับองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID)
USAID เป็นหน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศชั้นนำของโลกที่ดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนผลลัพธ์ของงานพัฒนา USAID ส่งเสริมความมั่นคงของชาติและความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ผ่านโครงการด้านการพัฒนา แสดงให้เห็นถึงความเอื้อเฟื้อของชาวอเมริกัน และส่งเสริมเส้นทางสู่การพึ่งพาตนเองและความสามารถในการฟื้นฟูของผู้รับความช่วยเหลือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.usaid.gov/
เกี่ยวกับโครงการ USAID Wildlife Asia
โครงการ USAID Wildlife Asia ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการลักลอบค้าสัตว์ป่าซึ่งเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อลดความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อชิ้นส่วนและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า เสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมาย เพิ่มความมุ่งมั่นทางกฎหมายและทางการเมือง และสนับสนุนความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อลดอาชญากรรมต่อสัตว์ป่าในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะกัมพูชา จีน ลาว ไทย และเวียดนาม โครงการ USAID Wildlife Asia มุ่งเน้นไปที่สัตว์ป่า 4 สายพันธุ์ ได้แก่ ช้าง แรด เสือ และลิ่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.usaidwildlifeasia.org
เกี่ยวกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ประเทศไทย
กรมอุทยานฯ เป็นหน่วยงานระดับกรมในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่มีภารกิจหลักในการอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งดูแลอุทยานแห่งชาติในประเทศไทย ตลอดจนทำงานวิจัยและพัฒนางานชุมชนเพื่อปกป้องและฟื้นฟูพันธุ์พืชท้องถิ่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://portal.dnp.go.th/
สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
ดอรีน โฮเซ่
ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสาร
โครงการ USAID Wildlife Asia
โทร: 63-917-6746474
อีเมล: djose@usaidwildlifeasia.org
วิรพร ศรีสุวรรณวัฒนา
เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสื่อสารองค์กร
องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา สำนักงานภาคพื้นเอเชีย
โทร: 66-89-811-0106
อีเมล: wsrisuwanwattana@usaid.gov