My Geeky America | ประสบการณ์อันระทึกที่ Comic-Con

เรื่องเล่าจากสองสาวคู่ซี้ นัทและมะปรางที่ตัดสินใจไป San Diego Comic-Con ครั้งแรก ด้วยความหวังที่จะสนองความ geek แบบที่เราเห็นในซีรี่ส์ Big Bang Theory มาดูกันซิว่าการเดินทางไป Comic-Con เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาของสองสาวนั้นเป็นยังไงบ้าง

ทำไมถึงอยากไป Comic-Con

มะปราง เราดู Big Bang Theory เห็นทุกคนในเรื่อง ท่าทางตื่นเต้นพร้อมต่อสู้เต็มที่เพื่อจองตั๋ว Comic Con กัน เราก็เลยเริ่มสงสัยว่า Comic Con มันคืออะไร

นัท เราสองคนไม่อ่านการ์ตูน  เราไป เพราะซีรี่ส์และหนังเท่านั้น ตอนนี้ Comic Con ขยายกว้างเกินโลกของ comics แล้ว แต่มันก็ยังมีคนไปเพื่อ comics อยู่นะ

เริ่มต้นวางแผนกันยังไง

น:  เราต้องมี ID ก่อน ต้องไปลงทะเบียนในเว็บ Comic Con และจำ ID นั้นให้ได้ เพราะจะต้องเอามาใช้จองตั๋ว  แล้วพอใกล้เริ่มขายบัตร เขาจะส่งอีเมลมาเตือนว่าวันนี้ๆ  Waiting Room จะเปิด เราก็เอา ID นั้น login เข้ามารอในห้องนี้

ม: พอเราเข้าไปในห้อง Waiting Room แล้ว ก็ต้องรอว่าเมื่อไหร่เขาจะสุ่มเราเข้าไปด่านซื้อตั๋ว เราสองคนต่างคนต่างอยู่บ้านลุ้นกันว่าใครจะได้เข้าก่อน

น: ตอนนั่งรอ ก็ลุ้นมากเพราะเห็นเลยว่าบัตรมันค่อยๆ หมดไป สุดท้าย พอเราเข้ามาได้ ก็ต้องเลือกว่าเราอยากเข้างานวันไหนโดยไม่รู้มาก่อนด้วยว่า ซีรี่ส์หรือหนังเรื่องไหนจะมา panel วันนั้น ต้องซื้อไปก่อน แต่เราก็จะพอเดาได้บ้างโดยดูว่าหนังที่จะเริ่มโปรโมทในช่วงนั้นมีเรื่องอะไร

เห็นว่าไป LA กันก่อน เป็นยังไงบ้าง

น: เราไปลง LA กันก่อนเพราะตั๋วเครื่องบินกรุงเทพ-LA ถูกกว่าไป San Diego แล้วจาก LA เราขับรถไปต่อได้

ม: นี่เป็นครั้งแรกในอเมริกาของเรา  พอลงเครื่องแล้ว เราต้องนั่ง taxi พอถึงที่หมาย เราจ่ายค่ารถให้ คนขับเขาก็ถามว่า แล้วทิปล่ะ  เราเพิ่งลงเครื่องตอนห้าทุ่ม ยังงงๆ อยู่ตั้งสติไม่ได้ เลยถามเขาว่าเท่าไหร่  เราไม่รู้ว่าปกติคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ก็เลยซวย เสียทิปไปตามที่เขาอยากได้

น: ตอนอยู่ LA นี่เกิดเรื่องเยอะแยะ  เราเช่ารถ แต่ไม่คุ้นขับฝั่งขวา ทำยางขูดฟุตบาท ยางแตก เลยต้องไปเปลี่ยนรถที่แอร์พอร์ต ไกลมาก หลังจากนั้น ก็ขับกลับมาในเมืองเพื่อมากินข้าว แค่ชั่วโมงเดียวเท่านั้น รถโดนทุบ

ม: แต่เหมือนทุบแกล้งเพราะกระจกไม่แตก  เราต้องเอารถไปเปลี่ยนที่สนามบินอีก แล้วก็ต้องไปสถานีตำรวจด้วย ไม่คิดว่าจะได้เจอประสบการณ์แบบนี้

น: ตำรวจ 911 ท่าทางชิลมากตอนเราบอกว่าโดนทุบรถ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา

ม: ตำรวจไม่เห็นเหมือนในหนังเลย  แค่ถามๆ แล้วก็เอาใบอะไรมาให้กรอก จบ  ในหนังดูตื่นเต้น มีต่อสู้กับผู้ร้าย

ถึง Comic-Con แล้วเกิดอะไรขึ้น?

น: งานใหญ่มาก อย่าง Hall H ที่ทุกคนอยากเข้าเพราะมีหนัง มีดาราดังๆ มาพูด มันใหญ่เท่าอิมแพคบ้านเรา และก็ไม่ได้เข้าง่ายๆ  ไม่ใช่ว่ามีตั๋วแล้วจะเข้าได้

ม: แต่เราก็มีความหวังว่าเราต้องเข้าได้

น: ต้องไปต่อคิวรับ wristband ตั้งแต่วันก่อนหน้าวันที่ต้องการเข้า ซึ่งเริ่มแจกตอน 3 ทุ่มคืนวันก่อน เราคิดจะเข้าวันเสาร์กัน ก็เลยต้องไปเอา wristband วันศุกร์

ม: วันศุกร์คนเขาตั้งแถวกันตั้งแต่แปดโมงเช้า แต่เราไม่รู้

น: นึกว่ายังมีเวลา เลยไปดู panel อื่นๆ ของวันศุกร์ก่อน แล้วค่อยมาต่อแถวประมาณสี่โมงเย็น เราได้ดู Big Bang Theory, iZombie, Dominic Cooper พอได้ดูอะไรต่ออะไร เราก็คิดว่า เอ๊ะ! ไม่เห็นมันยากเหมือนที่ใครต่อใครเขาบอกเลย

ม: แต่หารู้ไม่…

น: พอเราไปต่อคิว Hall H ตอนเกือบห้าโมง ถามคนว่าปลายแถวอยู่ที่ไหน เขาก็ชี้ไป… ไกลมาก…

ม: เราเดินหาหางแถวกันไปเรื่อยๆ จนกินว่าน่าจะสุดสุดแถวแล้ว แต่มันยังไม่สุด!

น: เรายืนต่อแถวตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็นถึงตีสอง รออยู่ในแถวมาตั้งนาน สุดท้าย wristband หมด 50 คนก่อนถึงเรา

ม: wristband มี 6,500 อัน ใครจะไปคิดว่ามันจะหมด

น: คืนนั้น เรากลับบ้านกันตีสาม แล้วหกโมงออกมาใหม่ เพราะเขาบอกว่า บางคนที่มาต่อแถวหน้างานตอนเช้าๆ อาจมีโอกาสเข้าได้

ม: แต่ปรากฏว่าก็เหมือนคืนก่อนอีก เพราะบางคนก็มาเข้าแถวตั้งแต่ตีสาม

น: ปีก่อนๆ เขาจะปล่อยคนที่ไม่มี wristband เข้าไปได้ถ้ามีที่เหลือเวลาคนออกจากฮอลล์ แต่ปีนี้ มีทั้ง DC Comics, Warner Bros., Marvel, Star Trek อยู่ฮอลล์เดียวกันวันเดียวกันหมด ไม่มีใครออกมาเลย

แล้วเสียดายอะไรมากที่สุด?

ม: วันที่ต่อแถวหน้า Hall H เรานั่งข้างๆ ผู้หญิงสองคน เขานั่งอ่านทวีตที่คนในฮอลล์ทวีตกัน  ระหว่างเราต่อแถวข้างนอกกันนั้น พี่ Eddy Redmayne จากเรื่อง Fantastic Beasts แจกคฑาให้แฟนๆ ทุกคน  เสียใจมาก

น: วันศุกร์ที่ต่อแถว wristband เราก็อ่านทวีตเหมือนกัน แล้วอ่านเจอว่าพี่ Benedict Cumberbatch มาคุยกับคนที่ต่อแถวอยู่หน้าๆ มาให้กำลังใจ เอาพิซซ่ามาแจก

ม: ทำใจไม่ได้ ไม่อ่านทวีตเกี่ยวกับ Comic Con อีกเลย จะร้องไห้

แล้วประทับใจอะไรบ้างกับทริปนี้

ม: คนทั่วไปน่ารัก เช่นคนที่เปลี่ยนรถให้ที่สนามบิน ดูแลดีมาก เดินมาส่ง ทุกคนดูมีความห่วงใย

น: คนที่นั่นพอเราบอกว่ามาจากเมืองไทย เขาก็จะถามว่ามาอเมริกาเป็นไงบ้าง เราก็จะเล่าเรื่องดราม่ารถให้ฟัง เขาก็ขำกันใหญ่

ม: แทบไม่เจอใครที่นิสัยไม่ดีเลย คนที่ต่อคิวด้วยกันทุกคนก็น่ารัก เป็นมิตร

น: เป็นการต่อคิว 15 ชั่วโมงที่สนุกดี

ม: ประทับใจอาหารด้วย คือราคามันก็เท่าทองหล่อ เอกมัย แต่จานมันใหญ่มาก กินสามวันไม่หมด รู้สึกว่าไม่ได้แพงอย่างที่คิด

แล้วจะกลับไปอีกไหม

น: ต้องกลับไปอีกครั้งให้ได้ เสียดาย

ม: ครั้งหน้า เราจะวางแผนกันให้ดีกว่านี้