โดย ไมค์ เพนซ์
วันที่ 9 พฤศจิกายน เวลา 18.19 น.
ไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา
ปีที่แล้ว ณ ประเทศเวียดนาม ประธานาธิบดีทรัมป์วางวิสัยทัศน์ของสหรัฐอเมริกาเพื่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง สัปดาห์นี้ ในนามของท่านประธานาธิบดี ผมจะนำคณะผู้แทนเดินทางไปยังภูมิภาคนี้เพื่อหารือความก้าวหน้าของการดำเนินวิสัยทัศน์ดังกล่าวให้กลายเป็นความจริง สารของเรานั้นเรียบง่าย นั่นคือ พันธกรณีของสหรัฐอเมริกาต่อภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกนั้นมั่นคงแน่วแน่และยืนยาว
สหรัฐฯ ปรารถนาให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก นับตั้งแต่สหรัฐอเมริกาถึงอินเดีย จากญี่ปุ่นถึงออสเตรเลีย ตลอดจนทุกประเทศในอาณาบริเวณระหว่างนั้น เป็นภูมิภาคที่เคารพอำนาจอธิปไตย การค้าพาณิชย์ลื่นไหลไร้อุปสรรคขัดขวาง อีกทั้งชาติเอกราชเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของตนเอง ภูมิภาคนี้ ซึ่งครอบคลุมกว่ากึ่งหนึ่งของพื้นผิวโลกและจำนวนประชากรโลก ประสบความก้าวหน้าอย่างยิ่งในยามที่หลักการเหล่านี้ได้รับการเคารพรักษา ขณะที่บางประเทศพยายามบ่อนทำลายฐานรากนี้ สหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการอย่างเด็ดขาดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของเราพร้อมกับส่งเสริมความสำเร็จร่วมกันของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก
ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิกของเราตั้งอยู่บนเสาหลักสามประการโดยเริ่มต้นจากความเจริญมั่งคั่ง กว่าสองในสามของปริมาณการค้าโลกเดินทางข้ามผ่านทะเล ท้องฟ้า ถนนหนทางและรางรถไฟของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก การค้าของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้มีมูลค่ามากกว่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี สนับสนุนตำแหน่งงานในสหรัฐฯ มากกว่า 3.3 ล้านตำแหน่ง นอกจากนี้ การลงทุนรวมของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้ยังมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมากกว่าการลงทุนโดยจีน ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้รวมกัน
โอกาสการเติบโตนี้ไร้ขีดจำกัด เพียงภายในปี ค.ศ. 2020 ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกจะเป็นบ้านของร้อยละ 40 ของชนชั้นกลางบนโลก ไขศักยภาพมหาศาลสำหรับแรงงาน เกษตรกร และผู้ประกอบการสหรัฐฯ ในการส่งออกสินค้าไปยังตลาดขนาดใหญ่ที่กำลังเติบโตเหล่านี้
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลของเราจึงได้จัดทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีที่เสรี เป็นธรรมและต่างตอบแทนกัน รัฐบาลของเราบรรลุสัญญาการค้าฉบับใหม่กับเกาหลีใต้และอีกฉบับหนึ่งกับเม็กซิโกและแคนาดาไปแล้ว อีกไม่นาน เราจะเริ่มเจรจาข้อตกลงทางการค้าฉบับสำคัญกับญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสามของโลก ข้อตกลงทางการค้าฉบับใหม่เหล่านี้จะคำนึงถึงตำแหน่งงานและแรงงานอเมริกันเป็นอันดับแรก
นอกเหนือจากการค้า สหรัฐอเมริกาจะยังคงอำนวยความสะดวกแก่การเพิ่มพูนการลงทุนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ความพยายามของเราจะขับเคลื่อนโดยภาคธุรกิจ ไม่ใช่ภาคราชการ เพราะรัฐบาลและรัฐวิสาหกิจไม่สามารถสร้างความเจริญมั่งคั่งที่ยั่งยืนได้
เพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชนในโครงสร้างพื้นฐานระดับภูมิภาคอีกครั้ง เมื่อไม่นานมานี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามรับรองกฎหมาย Build Act ซึ่งขยายความสามารถทางการเงินเพื่อการพัฒนาของสหรัฐฯ เป็น 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ประเทศของเรามุ่งมั่นช่วยภูมิภาคนี้สร้างท่าเรือและท่าอากาศยาน ถนนหนทางและรางรถไฟ ตลอดจนระบบท่อขนส่งและสายรับส่งสัญญาณข้อมูลมาตรฐานระดับโลก เราจะสนับสนุนเฉพาะโครงการที่ก่อประโยชน์เป็นรูปธรรมชัดเจนทั้งสำหรับประเทศเจ้าบ้านและประเทศของเรา
เสาหลักที่สองของเราคือความมั่นคงซึ่งเป็นรากฐานของความมั่งคั่ง ภายใต้ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก สหรัฐอเมริกาจะยังคงร่วมมือประเทศที่มีหลักการคล้ายกันเพื่อเผชิญหน้ากับภัยคุกคามเร่งด่วนที่สุดของภูมิภาคนี้ นับจากการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ไปจนถึงคตินิยมสุดโต่งและการก่อการร้าย
เฉพาะในปีนี้ สหรัฐอเมริกามอบเงินกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการด้านความมั่นคง ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนทางทหารเกือบ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อันเป็นจำนวนมากกว่างบที่ให้ตลอดสามปีที่ผ่านมารวมกัน
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังจะให้ความช่วยเหลือใหม่ ๆ แก่ประเทศต่าง ๆ ในการปกป้องชายแดนทั้งทางบก ทางทะเลและทางโลกดิจิทัล อีกทั้งจะยังคงสานต่อความร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนเพื่อปกป้องเสรีภาพในการเดินเรือและการบินผ่านการฝึกร่วมทางเรือระหว่างสหรัฐฯ กับญี่ปุ่นและอินเดียเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงถึงพันธสัญญาครั้งใหม่นี้ของเรา
ผมขอกล่าวให้ชัดแจ้งว่า สหรัฐฯ จะยังคงแรงกดดันด้านการทูตและเศรษฐกิจต่อเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง ความมุ่งมั่นของเราได้นำเกาหลีเหนือเข้าสู่โต๊ะเจรจา และเราขอเรียกร้องให้ทุกประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกคงโครงการรณรงค์กดดัน ซึ่งรวมถึงมาตรการคว่ำบาตร จนกว่าเราจะบรรลุการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ในคาบสมุทรเกาหลี
สุดท้ายนี้ สหรัฐฯ จะสนับสนุนการปกครองที่โปร่งใสเพื่อผลประโยชน์ของประชาชน หลักนิติธรรมและการคุ้มครองสิทธิส่วนบุคคล อันรวมถึงเสรีภาพทางศาสนา ประเทศที่ให้อำนาจแก่ประชาชน ส่งเสริมประชาสังคม ต่อต้านการทุจริต และปกป้องอธิปไตยของตนจะเป็นบ้านที่แข็งแรงสำหรับประชาชน อีกทั้งจะเป็นประเทศหุ้นส่วนที่ดีขึ้นของสหรัฐฯ ในทางตรงกันข้าม ประเทศที่กดขี่ประชาชนก็มักละเมิดสิทธิอธิปไตยของเพื่อนบ้านด้วยเช่นกัน ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกไม่มีพื้นที่สำหรับลัทธิอำนาจนิยมและการรุกราน
ในช่วงสัปดาห์นี้ คณะผู้แทนของเราจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-สหรัฐฯ การประชุมสุดยอดผู้นำเอเชียตะวันออก และการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค เราจะประกาศข้อตกลงและข้อริเริ่มใหม่ ๆ โดยหลายข้อประกอบด้วยการสนับสนุนทางการเงินที่สำคัญจากประชาชนผู้เสียภาษีและภาคธุรกิจของสหรัฐฯ นอกจากนี้ เราจะย้ำคำมั่นของประธานาธิบดีต่อการรื้อฟื้นความร่วมมือแห่งการเป็นหุ้นส่วน สหรัฐอเมริกาจะทำงานร่วมกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายกัน ตั้งแต่อินเดียจรดหมู่เกาะแปซิฟิก เพื่อเสริมส่งผลประโยชน์ร่วมของพวกเรา เราจะร่วมมือกันยืนหยัดต่อกรกับใครก็ตามที่คุกคามผลประโยชน์และค่านิยมของเรา
สหรัฐอเมริกาแสวงหาความร่วมมือ มิใช่การควบคุม เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว ท่านประธานาธิบดีได้ประกาศย้ำพันธกรณีของเราต่อภูมิภาคนี้ สัปดาห์นี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่งที่จะแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราด้วยการดำเนินการและการลงทุนต่อไป ความมั่นคงและความมั่งคั่งของสหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับภูมิภาคที่สำคัญนี้ และสหรัฐฯ จะยังคงขอรับรองว่า ทุกประเทศ ไม่ว่าประเทศเล็กหรือประเทศใหญ่ จะสามารถเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี