แถลงการณ์ร่วมระหว่างผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งแอลเบเนีย ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สาธารณรัฐเกาหลี สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา ในโอกาสครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์รัฐประหารในเมียนมา
เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 กองทัพได้ยึดอำนาจในเมียนมา โดยปฏิเสธปณิธานที่จะได้มาซึ่งประชาธิปไตยของชาวเมียนมา หนึ่งปีต่อมา รัฐประหารครั้งนั้นก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อประชาชนเมียนมา ผู้คนกว่า 14 ล้านชีวิตต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เศรษฐกิจอยู่ในภาวะวิกฤต ผลประโยชน์ที่ได้จากการเป็นประชาธิปไตยถูกตัดสิทธิ์ และเกิดความขัดแย้งกระจายไปทั่วประเทศ รัฐบาลทหารเป็นผู้ก่อให้เกิดสถานการณ์วิกฤตดังกล่าว ซึ่งบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพของเมียนมาและภูมิภาคอย่างร้ายแรง เราจึงเรียกร้องอีกครั้งให้ยุติความรุนแรงโดยทันที และให้ทุกฝ่ายเจรจาอย่างสร้างสรรค์เพื่อหาทางออกโดยสันติวิธี เราย้ำข้อเรียกร้องของเราให้รัฐบาลทหารดำเนินการโดยทันทีเพื่อยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน อนุญาตให้มีการเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้โดยไม่ถูกกีดขวาง ปล่อยตัวทุกคนที่ถูกคุมขังตามอำเภอใจ รวมถึงชาวต่างชาติ และให้ประเทศกลับคืนสู่กระบวนการประชาธิปไตยโดยเร็ว
เนื่องในโอกาสครบรอบการรัฐประหาร เราจึงร่วมระลึกถึงผู้เสียชีวิตในปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมไปถึงสตรี เด็ก ผู้ดำเนินความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ผู้พิทักษ์สิทธิมนุษยชน และผู้ชุมนุมประท้วงโดยสงบ เราประณามการละเมิดและการกระทำผิดด้านสิทธิมนุษยชนในทั่วประเทศโดยรัฐบาลทหาร ซึ่งหมายรวมถึงการกระทำต่อชาวโรฮีนจา และชนกลุ่มน้อยด้านชาติพันธุ์และศาสนา เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อรายงานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับกรณีการทรมาน ตลอดจนความรุนแรงทางเพศและด้วยเหตุแห่งเพศ เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อผู้คนอีกกว่า 400,000 ชีวิตที่ต้องหลบหนีจากบ้านเรือนของตนนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร เรายังมีความกังวลอย่างยิ่งต่อวิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรงทั่วประเทศ และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเปิดทางให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้อย่างเต็มที่และรวดเร็วโดยไม่ถูกกีดขวาง ซึ่งรวมไปถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เรามีความกังวลอย่างยิ่งต่อผู้คนจำนวนมากที่ถูกคุมขังตามอำเภอใจ และต่อการตัดสินโทษนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ และผู้ต้องขังทางการเมืองคนอื่น ๆ
เราเรียกร้องให้ประชาคมโลกสนับสนุนความพยายามในการส่งเสริมความยุติธรรมเพื่อประชาชนเมียนมา ส่งเสียงให้ผู้ละเมิดและกระทำผิดด้านสิทธิมนุษยชนต้องรับผิดชอบ หยุดการขายและส่งมอบอาวุธและยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ทั้งในทางทหารและทางพลเรือน ตลอดจนความช่วยเหลือทางเทคนิค ให้กับกองทัพเมียนมาและบรรดาตัวแทน และสนับสนุนประชาชนเมียนมาต่อไปโดยให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วน
เราเน้นย้ำการสนับสนุนฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน และความพยายามของผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนในการส่งเสริมการคลี่คลายสถานการณ์โดยสันติเพื่อประโยชน์ของประชาชนเมียนมา เราเรียกร้องให้รัฐบาลทหารมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในความพยายามของอาเซียนที่จะดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้ออย่างครบถ้วนและเร่งด่วน โดยรวมถึงการอำนวยให้ผู้แทนพิเศษของประธานอาเซียนสามารถเข้าถึงทุกฝ่าย รวมถึงกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตย ในเมียนมาได้ เรายังชื่นชมการทำงานของผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติในประเด็นเมียนมา และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารมีส่วนร่วมหารืออย่างสร้างสรรค์ร่วมกับท่านผู้แทน