ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืมเมื่อครั้งที่ได้ทราบข่าวเหตุการณ์ธรณีพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อสิบปีก่อน ภาพที่ปรากฏนั้นสะเทือนใจยิ่ง เมืองทั้งเมืองในอินโดนีเซียจนถึงโซมาเลียต่างถูกทำลายย่อยยับ คลื่นน้ำโถมกระหน่ำซัดบ้านเรือนจนราบคาบ ผู้คนนับแสนเสียชีวิตและอีกหลายแสนคนต้องพลัดพรากจากครอบครัว
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่สหรัฐอเมริกาขอรำลึกถึงผู้ที่จากไป ทั้งเกษตรกร ชาวประมง ตลอดจนนักเดินทางจากดินแดนของเรา ข้าพเจ้าทราบดีว่า ไม่มีคำใดที่สามารถถ่ายทอดความสูญเสียครั้งร้ายแรงนี้ได้ ไม่มีหนทางใดที่อาจลบล้างความเจ็บปวดของพ่อแม่ที่สูญเสียลูก หรือลูกที่สูญเสียพ่อแม่และจำต้องแบกรับความรับผิดชอบดังเช่นผู้ใหญ่ด้วยวัยที่ยังเยาว์
สหรัฐฯ ยกย่องผู้คนหลายล้านคนที่มีส่วนร่วมในความพยายามฟื้นฟูจากภัยพิบัติ และขอเชิดชูเกียรติของผู้ที่ทำงานอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เพื่อช่วยเหลือผู้เคราะห์ร้ายให้ตั้งต้นฟื้นฟูและสร้างชุมชนของตนขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เหตุการณ์ธรณีพิบัติสึนามิครั้งนั้นเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งที่เราเคยประสบมา แต่ก็ได้ดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวพวกเราทุกคนออกมาเช่นกัน
เหตุการณ์ครั้งนั้นยังส่งสัญญาณเตือนถึงเราทุกคน พวกเราทราบดีว่าหลายภูมิภาคกำลังเผชิญกับอุทกภัยและระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ อีกทั้งนักวิทยาศาสตร์ยังกล่าวกันมาหลายปีแล้วว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศอาจส่งผลให้เกิดพายุรุนแรงขึ้นและบ่อยครั้งขึ้น ถ้าเราไม่หยุดยั้งและเปลี่ยนแปลงแนวโน้มนี้ เมื่อปีที่แล้ว ข้าพเจ้าได้เดินทางเยือนฟิลิปปินส์และได้เห็นความเสียหายจากพลังทำลายล้างของพายุไต้ฝุ่นไห่เยียน แม้ยังไม่อาจเข้าใจได้ว่าพายุที่รุนแรงเช่นนี้หรือร้ายแรงกว่านี้อาจกลายเป็นเรื่องปกติได้ แต่เราก็ต้องเริ่มดำเนินการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศตั้งแต่ขณะนี้ ก่อนที่จะสายเกินไปกว่าจะตระหนักถึงสัญญานเตือนภัยดังกล่าว
ในวันแห่งการรำลึกนี้ สหรัฐฯ ขอร่วมไว้อาลัยพร้อมกับมิตรของเราในเอเชียและแอฟริกาที่ได้รับผลกระทบจากมหันตภัยนี้ สหรัฐฯ มุ่งมั่นรับมือกับงานหนักที่ยังรอคอยอยู่เบื้องหน้าเพื่อช่วยภูมิภาคนี้สร้างชุมชนที่ปลอดภัยและปรับตัวกับภัยพิบัติได้ดีขึ้น เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อสรรค์สร้างโลกที่ปลอดภัยและยั่งยืนยิ่งขึ้นไว้ให้ลูกหลาน คนรุ่นต่อไปกำลังฝากความหวังไว้กับเรา