คำให้สัมภาษณ์ของเอกอัครราชทูต กลิน ที. เดวีส์ แก่สื่อมวลชนหลังจากการเข้าอำลา พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในวาระที่จะพ้นตำแหน่ง
13 กันยายน พ.ศ. 2561
กระทรวงกลาโหม
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย
ผมเพิ่งจะเข้าพบท่านรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งดำเนินไปได้ด้วยดี ครั้งนี้เป็นการเข้าพบเพื่ออำลาท่านในโอกาสที่ผมจะพ้นตำแหน่งที่นี่ เราได้หารือทบทวนหลายประเด็นที่สำคัญต่อทั้งประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา ผมได้ขอบคุณท่านรองนายกที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างสหรัฐฯกับไทยให้มีความแข็งแกร่งเสมอมา เราพูดถึงเรื่องที่ท่านรองนายกเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา และผมก็ขอบคุณท่านเป็นอย่างยิ่งที่ให้โอกาสสหรัฐอเมริกามีส่วนร่วมในภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่าที่สำเร็จลุล่วงไปไม่นานนี้ เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนช่วยในภารกิจครั้งนี้แม้จะเพียงเล็กน้อย ภายใต้การนำของประเทศไทย และยินดีมากที่ภารกิจสำเร็จลุล่วงในที่สุด
ผมยินดีตอบคำถามครับ หากมีท่านใดอยากถามคำถาม
ท่านทูตเห็นความคืบหน้าในเรื่องประชาธิปไตยในประเทศไทยหรือไม่ อย่างไร
เราได้แลกเปลี่ยนความเห็นกันพอสมควรเรื่องความคืบหน้าอีกขั้นหนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ซึ่งก็คือ การที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับท้ายสุดได้รับการลงพระปรมาภิไธยโดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งตอนนี้ก็เป็นการเริ่มกระบวนการที่จะนำไปสู่สิ่งที่เราและมิตรทั้งหลายของไทยที่ต้องการให้ไทยแข็งแกร่งและประสบความสำเร็จได้หวังไว้ ซึ่งก็คือ การเลือกตั้งในต้นปีหน้า ผมคิดว่าตอนนี้ขั้นตอนนี้ก็กำลังเดินหน้าตามที่วางไว้ และเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สหรัฐฯ ในฐานะที่เป็นมิตรกับไทยมาตลอด 200 ปี ก็เพียงต้องการสิ่งที่เป็นพื้นฐานเลยสำหรับประเทศไทย ซึ่งก็คือ ให้ไทยมีความแข็งแกร่ง คงไว้ซึ่งเอกราชและอธิปไตย และเป็นชาติอิสระ และให้คนไทยสามารถมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการกำหนดอนาคตทางการเมืองของประเทศ และอภิปรายโต้แย้งประเด็นต่าง ๆ ด้วยความเคารพและโดยสันติ เพื่อที่ว่าปีหน้าเมื่อมีการเลือกตั้งขึ้น ก็จะมีรัฐบาลพลเรือนที่ได้รับเลือกมา ซึ่งเป็นการสะท้อนเจตนารมณ์ของคนไทย ที่ผมพูดมานี้ก็คือสิ่งที่สหรัฐฯ ปรารถนา เราเป็นประเทศประชาธิปไตยเก่าแก่ สำหรับเราแล้วประชาธิปไตยเป็นรูปแบบการปกครองที่ประสบความสำเร็จ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาที่ผมได้เดินทางเยือนราว ๆ 45 จังหวัดทั่วประเทศไทย ผมก็ได้เรียนรู้ว่าคนไทยรักประเทศชาติและอยากให้ประเทศเจริญรุ่งเรืองมากแค่ไหน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คนอเมริกันก็ปรารถนาด้วยเช่นกัน ขั้นตอนต่อจากนี้ก็จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่เราคาดหวังว่าจะมีความเสรีและยุติธรรม และจะมีการอภิปรายแสดงความเห็นของคนไทยด้วยความเคารพ การอภิปรายเรื่องการเมืองอย่างเปิดกว้าง เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการรวมตัว และเสรีภาพของสื่อ เพื่อที่ขั้นตอนที่ว่านี้จะดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และสามารถมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า
ท่านพอจะบอกได้หรือไม่ว่าใครจะมารับตำแหน่งทูตคนใหม่
ตามระบบที่อเมริกา ประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศต่าง ๆ สิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ก็คือ ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน หวังว่าจะเร็ว ๆ นี้ ทางทำเนียบขาวจะประกาศชื่อผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ต่อจากผม ผมเองจะเดินทางออกจากประเทศไทยในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งผมก็เศร้าใจไม่น้อยแต่ก็พยายามคิดในแง่บวก ผมคิดบวกเพราะว่าช่วงสามปีที่ผ่านมาที่ประจำอยู่ที่ประเทศไทยเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก ประเทศไทยเป็นประเทศที่งดงามและมั่งคั่งไปด้วยคุณลักษณะที่ดีมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นที่สำคัญที่สุดก็คือคนไทย 68 ล้านคน ที่ให้การต้อนรับผมอย่างอบอุ่นทุกที่ที่ผมกับภรรยาได้เดินทางไปทั่วประเทศไทย เพราะฉะนั้นก็รู้สึกใจหายที่จะต้องกล่าวอำลา แต่ผมก็หวังว่าในวันข้างหน้าจะได้มีโอกาสกลับมาอีก ผมมาเมืองไทยครั้งแรกในปี ค.ศ. 1970 ตอนนั้นอายุ 14 ปี ผมหลงรักเมืองไทยตั้งแต่ตอนนั้น การที่ได้มาประจำที่นี่เป็นของขวัญชิ้นพิเศษมากที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ มอบให้ผม ได้มาเป็นตัวแทนประเทศสหรัฐอเมริกาที่กรุงเทพมหานคร ที่เมืองไทย ซึ่งเป็นมิตรที่ดียิ่งของสหรัฐฯ และเป็นชาติพันธมิตรที่ให้ความร่วมมืออย่างดีตลอดช่วงสองศตวรรษที่ผ่านมา
ถ้าพลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกหลังการเลือกตั้ง ท่านทูตมีความเห็นว่าอย่างไร
ผมไม่สามารถคาดการณ์อนาคตหรือให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องสมมติในอนาคตได้ ผมกล่าวไปแล้วว่า เราคิดว่าการที่ขั้นตอนดำเนินไปข้างหน้าในตอนนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ เป็นความคืบหน้าในทางบวกที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้ขั้นตอนนี้เดินต่อไปข้างหน้าได้ จากนี้เราจะดูว่าอนาคตจะพัฒนาต่อไปอย่างไรและจะเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากที่ผมได้มาประจำที่นี่เป็นเวลาสามปี และได้เห็นและมีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ หลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นปีแห่งการไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มาจนถึงที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดงานนิทรรศการของขวัญแห่งมิตรภาพ ที่เฉลิมฉลองความสัมพันธ์ 200 ปีระหว่างประเทศเรา มาจนถึงเหตุการณ์ล่าสุดก็คือ ภารกิจช่วยเหลือทีมหมูป่า ผมจะจากประเทศไทยด้วยความมั่นใจอย่างยิ่ง ความรู้สึกบวก และความหวังอย่างเต็มเปี่ยมที่มีต่อประเทศไทย ขอให้ประเทศไทยมีเสรี อธิปไตย มีความแข็งแกร่ง และเจริญรุ่งเรือง ขอให้คนไทยมีความสุขและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการกำหนดอนาคตทางการเมืองของประเทศ และนี่ก็เป็นสิ่งเดียวที่ผมปรารถนาจากนี้ครับ