ถ้อยแถลงจากการประชุมระหว่างเอกอัครราชทูต ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทย ณัฐพล นาคพาณิชย์
จัดเตรียมโดยโฆษกประจำคณะผู้แทนสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ โอลิเวีย ดัลทัน
เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำสหประชาชาติ ลินดา โทมัส-กรีนฟิลด์ เข้าพบรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ณัฐพล นาคพาณิชย์ วันนี้ที่กรุงเทพมหานคร ในทั้งสองการประชุม เอกอัครราชทูตโทมัส-กรีนฟิลด์ ย้ำถึงความแข็งแกร่งของพันธไมตรีอันยาวนานระหว่างสหรัฐฯ และไทย อีกทั้งยังเน้นถึงความมุ่งมั่นที่สหรัฐฯ มีต่อประชาชนไทยขณะที่เราทำงานร่วมกันเพื่อต่อสู้กับโรคโควิด-19 ซึ่งรวมไปถึงวัคซีนโควิด-19 จำนวน 1.5 ล้านโดสที่สหรัฐฯ ได้บริจาคให้เมื่อเร็ว ๆ นี้ และวัคซีนอีก 1 ล้านโดสที่ประกาศไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าจะบริจาคให้ นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตโทมัส-กรีนฟิลด์ ยังได้กล่าวถึงการประกาศในวันนี้ว่า สหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือรอบใหม่ มูลค่า 55 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยการดำเนินการรับมือกับสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมและการระบาดใหญ่ในภูมิภาค
ในการประชุมกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ดอน ปรมัตถ์วินัย เอกอัครราชทูตโทมัส-กรีนฟิลด์ ได้แสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในพม่า และผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวต่อเสถียรภาพในภูมิภาค เอกอัครราชทูตโทมัส-กรีนฟิลด์ ยังได้เน้นถึงความสำคัญของการปกป้องสิทธิมนุษยชน และเสรีภาพขั้นพื้นฐานด้วย
เอกอัครราชทูตโทมัส-กรีนฟิลด์ และเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ณัฐพล นาคพาณิชย์ หารือถึงความสำคัญของความร่วมมือที่ต่อเนื่องระหว่างสหรัฐฯ และไทยในประเด็นต่าง ๆ มากมาย รวมถึงการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 และความต้องการด้านมนุษยธรรม